สร้างสือ CAI ด้วยโปรแกรมแฟลช
วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
การฝากไฟล์แฟลชเพื่อใช้งานแบบออนไลน์
คลิกที่รูป...ใช้งานสื่อมัลติมีเดีย
วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560
แบบทดสอบเก็บคะแนน (8 คะแนน)
Loading...
ข้อดี และข้อจำกัดของสื่อมัลติมีเดีย
Cr.http://www.thaiedunet.com/cet/html/multimedia/multi_lesson/multimedia_main.html
ข้อดี
เทคโนโลยีด้านสื่อมัลติมีเดียช่วยให้การออกแบบบทเรียน ตอบสนองต่อแนวคิด และทฤษฎีการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิจัยที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสื่อมัลติมีเดียว่า สามารถช่วยเสริมการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นได้
สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบของซีดีรอม ใช้ง่าย เก็บรักษาง่าย พกพาได้สะดวก และสามารถทำสำเนาได้ง่าย
สื่อมัลติมีเดียเป็นสื่อการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองตามศักยภาพ ความต้องการ และความสะดวกของตนเอง สามารถสร้างสถานการณ์จำลอง จำลองประสบการณ์ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ในปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยสร้างบทเรียน (Authoring Tools) ที่ง่ายต่อการใช้งานทำให้บุคคลที่สนใจทั่วไปสามารถสร้างบทเรียนสื่อมัลติมีเดียใช้เองได้
ผู้สอนสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียเพื่อสอนเนื้อหาใหม่ เพื่อการฝึกฝน เพื่อเสนอสถานการณ์จำลอง และเพื่อสอนการคิดแก้ปัญหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้เป็นประการสำคัญ รูปแบบต่างๆ ดังกล่าวนี้จะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ และรูปแบบการคิดหาคำตอบ
สื่อมัลติมีเดียช่วยสนับสนุนให้มีสถานที่เรียนไม่จำกัดอยู่เพียงห้องเรียน เท่านั้น ผู้เรียนอาจเรียนรู้ที่บ้าน ที่ห้องสมุด หรือภายใต้สภาพแวดล้อมอื่นๆ ตามเวลาที่ ตนเองต้องการ
เทคโนโลยีสื่อมัลติมีเดีย สนับสนุนให้เราสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียกับผู้เรียนได้ ทุกระดับอายุ และความรู้ หลักสำคัญอยู่ที่การออกแบบให้เหมาะสมกับผู้เรียนเท่านั้น
สื่อมัลติมีเดียที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนของโรงเรียน หรือหน่วยงานแล้ว ความก้าวหน้าของระบบครือข่าย ยังช่วยส่งเสริมให้การใช้สื่อมัลติมีเดียเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย
ข้อจำกัด
ถึงแม้ว่าขณะนี้ราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จะ ลดลงมากแล้วก็ตาม แต่การที่จะนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในวงการศึกษาในบางสถานที่นั้นจำเป็นต้อง มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบเพื่อให้คุ้มกับค่าใช้จ่าย ตลอดจนการดูแลรักษาด้วย
การออกแบบสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษาที่มีคุณภาพเหมาะสมตามหลักทางจิตวิทยา และการเรียนรู้นับว่ายังมีน้อย เมื่อเทียบกับการออกแบบโปรแกรมเพื่อใช้ในวงการด้านอื่น ๆ ทำให้สื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษามีจำนวน และขอบเขตจำกัดที่จะนำมาใช้ในการเรียนวิชาต่าง ๆ
ในขณะนี้ยังขาดอุปกรณ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานระดับเดียวกัน เพื่อให้สามารถใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบกัน
การที่จะให้ผู้สอนเป็นผู้ออกแบบสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษานั้นเป็นงานที่ต้องอาศัยเวลา สติปัญญา และความสามารถเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เป็นการเพิ่มภาระของผู้สอนให้มีมากยิ่งขึ้น
คอมพิวเตอร์เป็นสื่อที่มีความยุ่งยากในการใช้งาน และความซับซ้อนของระบบการทำงานมาก เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ
มีตัวแปรที่เป็นปัญหานอกเหนือจากการควบคุมมาก เช่น ไฟฟ้าขัดข้อง ระบบ Server เป็นต้น
เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสื่อมัลติมีเดียมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้ผู้ผลิตสื่อมัลติมีเดียต้องหาความรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเสมอ
ในการผลิตสื่อมัลติมีเดียนั้นต้องการทีมงานที่มีความชำนาญในแต่ละด้านเป็นอย่างมากอีกทั้งต้องมีการประสานงานกันในการทำงานสูง
การผลิตสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา
Cr.http://www.thaiedunet.com/cet/html/multimedia/multi_lesson/multimedia_main.html
อุปกรณ์หลัก
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
หมายถึง ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ที่สามารถมองเห็น และจับต้องได้ เช่น ซีพียู จอภาพ คีย์บอร์ด เมาส์ หรือเครื่องพิมพ์ เป็นต้น ฮาร์ดแวร์เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ทำงานตามคำสั่งของโปรแกรมควบคุม หรือที่เรียกกันว่า
ซอฟต์แวร์
ให้ความสำเร็จตามความต้องการใช้งานของผู้ใช้ (ดูภาพด้านข้างประกอบ)
ซอฟต์แวร์ (Software)
หมายถึง ชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เราเรียกชุดคำสั่งดังกล่าวนี้ว่า
"โปรแกรม"
แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ
และ
โปรแกรมการใช้งานต่าง ๆ
::
ภาพจอมอนิเตอร์
::
จำนวนภาพตัวอย่าง
3
จาก
7
ภาพ
อุปกรณ์เสริม
โมเด็ม (Modem)
คู่สายโทรศัพท์
จากการสแกน ด้วยเครื่องสแกนเนอร์
กล้องถ่ายภาพระบบ Digital
แผ่นซีดี และ CD Writer
กล้องถ่ายวีดีโอ
ไมค์โครโฟน (Microphone)
การ์ดเสียง (Sound Card)
ลำโพง
การ์ดวีดีโอ (Video Card)
โมเด็ม (Modem)
<
ขึ้นด้านบน
>
โมเด็มเป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางในการแปลงสัญญาณ Analog เป็น Digital และแปลงจากสัญญาณ Digital เป็น Analog เพื่อส่งผ่านข้อมูลทางสายโทรศัพท์
คู่สายโทรศัพท์
<
ขึ้นด้านบน
>
การเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต การใช้สายโทรศัพท์ จะช่วยให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์สองตัวสามารถรับ - ส่งข้อมูลระหว่างกันได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลกันมาก
จากการสแกนด้วยเครื่องสแกนเนอร์
<
ขึ้นด้านบน
>
สแกนเนอร์มีหน้าที่ในการเปลี่ยนแปลงภาพต้นฉบับ (รูปถ่าย ตัวอักษรบนหน้ากระดาษ ภาพวาด) ให้เป็นไฟล์ภาพ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถนำข้อมูล ดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการแสดงผลที่หน้าจอ ทำให้สามารถแก้ไข ตกแต่งเพิ่มเติม และจัดเก็บข้อมูลได้ ในปัจจุบันสแกนเนอร์แบ่งได้ 2 รูปแบบคือ
แบบใส่กระดาษแล้วกระดาษจะเลื่อนผ่านหัวสแกนเอง เรียกว่า Sheet - Feed Scanner
แบบวางกระดาษแล้วให้หัวสแกนเลื่อนอ่านข้อมูลจากกระดาษ โดยกลไกการทำงานคล้ายๆ กับเครื่องถ่ายเอกสาร เรียกว่า Flatbed Scanner
กล้องถ่ายภาพระบบ Digital
<
ขึ้นด้านบน
>
ความก้าวไกลทางเทคโนโลยีทำให้ปัจจุบันมีกล้องถ่ายรูป ที่สามารถถ่าย และให้ภาพเป็น Digital Image ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแปลงภาพ ทำให้สามารถประหยัดเวลาได้มาก นอกจากนั้นยังสามารถใช้ถ่ายภาพจากหนังสือ เอกสาร หนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่น ๆ แทนการสแกนภาพได้อีกด้วย
แผ่นซีดี และ CD writer
<
ขึ้นด้านบน
>
เพื่อใช้บันทึกเรื่องราวจากสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา เนื่องจาก แผ่นซีดี เป็นสื่อที่มีความจุข้อมูลสูง
กล้องถ่ายวิดีโอ
<
ขึ้นด้านบน
>
ปัจจุบันมีขนาดเล็กและเป็นประเภท Digital มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพได้คมชัด และสะดวกต่อการพกพาไปในที่ต่าง ๆ
ไมโครโฟน (Microphone)
<
ขึ้นด้านบน
>
ไมโครโฟนเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึกเสียง โดยทั่วไปแล้วไมโครโฟนมี 2 แบบ คือ แบบที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟเลี้ยงในตัวโดยอาศัยวงจรภายนอกช่วยขยายเสียงให้ดังขึ้นเรียกว่า Dynamic Microphone
ส่วนอีกแบบหนึ่ง จะมีแหล่งจ่ายไฟในตัว เช่น ถ่านไฟฉายก้อนเล็ก หรือจากสาย
จ่ายไฟเลี้ยง เป็นต้น ซึ่งเรียกว่า Condensor Microphone โดยไมโครโฟนประเภทนี้ จะให้
คุณภาพเสียงดีกว่าแบบแรก
การ์ดเสียง (Sound Card)
<
ขึ้นด้านบน
>
การ์ดเสียงเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสร้าง และจัดการกับระบบเสียงในเครื่องเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีในคอมพิวเตอร์ เพราะในปัจจุบันระบบปฏิบัติการรองรับการแสดงผลทางเสียงอย่างเต็มรูปแบบ (Full Duplex) สามารถรับและส่งสัญญาณเสียงพร้อมกันได้ การเลือกใช้ควรให้เหมาะสมกับคุณภาพการใช้งาน Sound Card ซึ่งในปัจจุบันมักจะรวมมากับ Board (On Board) หากต้องการคุณภาพดีมากขึ้น ควรซื้อเพิ่มเติม
ลำโพง (Speaker)
<
ขึ้นด้านบน
>
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ สำหรับแสดงผลทางเสียงซึ่งนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญ
มากขึ้นในปัจจุบันเพราะมีการใช้ระบบมัลติมีเดียกันมากขึ้น ลำโพงที่ใช้กับคอมพิวเตอร์จะมี
อุปกรณ์เครื่องขยายเสียงอยู่แล้วในตัว สังเกตจากการมีสายไฟเสียบและปรับความดังค่อย
การ์ดวิดีโอ (Video Card)
<
ขึ้นด้านบน
>
มีหน้าที่นำสัญญาณวีดีโอเข้า แต่แปลงสัญญาณวีดีโอออก โดยทั่วไปที่ใช้กันอยู่มี 2 แบบ คือ
การ์ดจับภาพที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการบีบอัด การ์ดชนิดนี้มีราคาถูก การใช้งานง่าย แต่มีข้อเสียคือ ต้องใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากไม่มีฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่โดยตรง และให้คุณภาพวิดีโอไม่ดีนัก ตัวอย่างการ์ดประเภทนี้ได้แก่ Pinnacle Studio, VCD Edit SX เป็นต้น
** วิดีโอที่ได้จากการ์ดประเภทนี้ อาจอยู่ในรูปแบบไฟล์ AVI, MPEG-1
การ์ดจับภาพที่ใช้ฮาร์ดแวร์ในการบีบอัด การ์ดชนิดนี้จะมีฮาร์ดแวร์ที่ช่วยในการบีบอัดข้อมูลโดยตรง จึงทำให้ไม่ต้องอาศัยกำลังจากเครื่องมากนัก การทำงานก็สะดวก แต่ค่อนข้างมีราคาแพง การ์ดประเภทนี้ได้แก่ VCD Edit TV เป็นต้น
รูปแบบการบีบอัดสามารถกำหนดได้ว่าจะให้บีบอัดได้มากน้อยเพียงใด ถ้าบีบอัดน้อยคุณภาพของ วิดีโอก็จะดี ถ้าบีบอัดมากคุณภาพก็จะน้อย รูปแบบไฟล์จะเป็น AVI, MPEG-1
บทความที่ใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)